วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

บทสรุป Skyrim [Part2/2]


skyrim_cover.jpg (559×266)

บทสรุป Skyrim เมนท์เควส Part2 ครับ ขอขอบคุณเจ้าของบทความคุณ Sylphine Sylphgale
จากบล็อค http://sylphine.exteen.com/ ครับ ท่านใดต้องการข้อมูลย่อยอื่นๆ เช่นการตีไอเท็ม เควสย่อย มังกร ทั้งหลายเชิญติดตามที่บล็อค Sylphine ได้เลยครับ 

9. A Cornered Rat
หลังจากคุยกับ Delphine เราจะต้องหาตัว Esbern ที่คาดว่าอยู่ที่เมือง Riften ซึ่งเราสามารถถามได้จากหลายคน
  • ถามจาก Brynjolf (ตาม Journal) ซึ่งมักจะอยู่ที่กิลด์โจร ถ้าเราเป็นสมาชิกก็ไปถามได้เลย แต่ถ้าไม่ เขาจะให้เราทำเควสเข้ากิลด์โจรก่อน รายละเอียดอ่านได้จาก เอนทรี่ Thieves Guild เรื่องเควส A Chance Arrangement
  • ถามจาก Vekel the Man บาร์เทนเดอร์ประจำ The Ragged Flagon ใน The Ratway ถ้าเป็นสมาชิกก็ถามได้เลยเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องฝ่า The Ratway เข้าไปที่ The Ragged Flagon แล้วอาจต้องต่อยกันสักยก
  • คุยกับบาร์เทนเดอร์กิ้งก่าในบาร์ The Bee and Barb
หลังจากถามเสร็จ จะรู้ว่า Esbern อยู่ที่ Ratway Warrens ซึ่งพอเราเข้าไปจะพบว่ามีพวก Thalmor มาไล่ล่าหาตัว Esbern เหมือนกัน ลุยดันเจี้ยนผ่าไปจนถึงห้องของ Esbern เขาจะระแวงเรามาก จะตอบข้อไหนก็ได้ หรือบอกว่า Delphine ส่งมา แล้วพูดโค้ดที่ Delphine บอกมาว่า "Where were you on the 30th of Frostfall?" ก็ได้ แล้ว Esbern จะให้เราเข้าไป หลังจากนั้นก็จะคุยกับเรา(อย่างยาว)
คุยเสร็จ Esbern จะขอเตรียมตัว เสร็จแล้วเราจะต้องพา Esbern ไปหา Delphine พอออกมาจากห้องจะเจอศัตรูด้วย ให้ระวัง เสร็จแล้วให้ไปหา Delphine ที่ Riverwood จะมีบทสนทนาอย่างยาว แล้วจะเริ่มเควสต่อไป

10. Alduin's Wall
หลังจากพา Esbern มาแล้วคุยกับ Delphine พอคุยจบเราจะต้องไปที่ Sky Heaven Temple ซึ่งต้องเข้าจากทาง Karthspire จะเลือกเดินทางไปพร้อม Esbern กับ Delphine ก็ได้ หรือจะ แยกกันแล้วไปเจอกันที่โน่นก็ได้
พอเราไปถึง Karthspire เราจะต้องเดินผ่านพื้นที่อยู่อาศัยของพวก Forsworn แล้วจะเจอมังกรด้วยตัวนึง จัดการให้หมดแล้วเข้าไปข้างใน
พอเข้าไปข้างใน จัดการศัตรูเกะกะให้หมด ไปต่อจะเจอพัซเซิลสัญลักษณ์ เป็นเสา 3 เสา โดยเราต้องหมุนเสาให้เป็นสัญลักษณ์ Dragonborn ให้หมด
สัญลักษณ์ Dragonborn รูปร่างแบบนี้
 
หลังหมุนเสร็จ เราจะเข้าไปต่อได้ แล้วจะเจอพัซเซิลต่อไป ซึ่งอันนี้เราต้องเดินเหยียบสัญลักษณ์ Dragonborn ไปดึงสวิทช์ที่อีกฟากของห้อง ถ้าเรามีผู้ติดตาม ให้สั่งให้รอด้วย ไม่งั้นเดินตามมาเหยียบผิด โดนลูกไฟกันอีก
ดึงสวิทช์เสร็จ เดินต่อไปตามทาง จะเจอแท่นวงกลมอยู่ ให้เดินไปสำรวจจะมีเหตุการณ์ แล้วเราจะเข้าไปต่อได้
พอเข้าไปข้างใน รอ Esbern กับ Delphine สักพัก แล้วจะมีบทสนทนาเล่าเรื่อง หลังจากนั้นเราจะต้องไปถามเบาะแสของ Shout "Dragonrend" ที่ High Hrothgar

11. The Throat of the World
ให้เดินทางไปที่ High Hrothgar แล้วคุยกับ Arngier หลังจากคุยสักพัก Arngier จะสอน Shout "Clear Sky" ให้เรา หลังจากนั้นให้เดินไปทางลานด้านหลังของ High Hrothgar จะมีทางที่มีพายุหนักมากพัดอยู่ ให้ใช้ Shout "Clear Sky" ทำให้มันหายไปซะ แล้วเดินขึ้นไป (ต้องตะโกนเป็นพักๆ เพราะมีผลแค่ชั่วคราว และครอบคลุมพื้นที่แค่บางส่วนเท่านั้น) พอเดินขึ้นไปถึงข้างบน Paarturnax จะโผล่มาคุยกับเรา หลังจากนั้นเราจะได้เรียน Shout "Fire Breath" คำนึงจากเขา แล้วให้ใช้ Fire Breath ใส่ Paarthurnax แล้วเขาจะคุยกับเราต่อ คุยจบเราจะต้องไปหาเบาะแสของ Elder Scroll แล้วจะเริ่มเควสต่อไป

12. Elder Knowledge
หลังจากเริ่มเควส ให้เราไปถาม Esbern หรือ Arngier ก็ได้เรื่อง Elder Scroll จะพบว่าเราต้องไปที่วิทยาลัย College of Winterhold ซึ่งถ้าเราเข้าร่วมไปแล้วก็ดีไป แต่ถ้ายัง ก็จะต้องทำเควสย่อยเพื่อเข้าร่วม แต่ถ้าขี้เกียจ ข้ามย่อหน้าข้างล่างไปคุยกับ Septimus เลยค่ะ
  • ถ้าเรายังไม่ได้เข้าร่วมกับวิทยาลัย College of Winterhold พอเราเดินไปถึงทางเข้าวิทยาลัย เราจะเจอ Faralda เดินมาถามเรา พอคุยเสร็จ Faralda จะให้เราร่ายคาถาที่กำหนดยิงใส่พื้น แต่ถ้าเราเลือกข้อ "Would you let a Dragonborn in?" เราก็จะโดนขอให้ตะโกนโชว์แทน
พอเข้าไปแล้วให้เข้าไปที่ Arcanaeum ห้องสมุดประจำวิทยาลัย จะเจอบรรณารักษ์ Urag gro-Shub นั่งอยู่ พอคุยเรื่อง Elder Scroll เขาจะให้หนังสือ 2 เล่ม พออ่านหมดทั้ง 2 เล่ม Urag ก็จะบอกเรื่อง Septimus Signus หลังจากนั้นเราก็จะต้องไปที่ Septimus Signus's Outpost ทางเหนือของวิทยาลัย ให้วิ่งบนพื้นน้ำแข็งไปก็จะถึง
พอเข้าไป ให้คุยกับ Septimus เขาจะขอร้องให้เราช่วยงานเขาหน่อย แล้วจะให้ Attunement Sphere กับ Blank Lexicon มา
ตอนนี้เราเลือกได้ว่าจะไปโบราณสถานของพวก Dwemer (โบราณสถานของพวกดวาร์ฟ หรือ เดมเมอร์) อันใดอันหนึ่งใน 3 อัน คือ Alfthand , Mzinchaleft หรือ Raldbthar
โบราณสถานดวาร์ฟนั้น เป็นดันเจี้ยนขนาดใหญ่(มากๆ) มีหลายโซน แต่ข้อดีคือ เส้นทางตรง และไม่ซับซ้อน แต่ศัตรูข้างในอาจจะเป็นปัญหาสักหน่อย นอกจากเราจะเจอพวกหุ่นกลไกที่พวกนั้นสร้างไว้แล้ว ข้างในยังมีพวก Falmer พร้อมทั้ง Chaurus (หน้าตาคล้ายๆตะขาบผสมแมงป่อง ยิงพิษได้เหมือนแมงมุม) ด้วย ให้ระวัง Dwarven Centurion ให้ดี เพราะตีหนักมากๆ และยังไงก็ต้องสู้กับมัน
เนื่องจากดันเจี้ยนเลือกได้ จึงขอข้ามเนื้อหาย่อยในดันเจี้ยนไป แต่ถ้าเราเข้าไปถึงส่วนลึกสุดของดันเจี้ยน (มักจะเป็นห้องที่ ข้างหน้ามีลิฟท์) ให้สังเกตดูทางซ้ายทางขวา จะมีกลไก Dwarven Mechanism อยู่ ให้กดสำรวจ เราจะเอา Attunement Shere เสียบเข้าไป แล้วจะมีทางไปต่อลงไปที่ Blackreach
พอเราไปถึง Blackreach ให้ไปที่ Tower of Mzark (จะมีลูกศรชี้ ถ้าเปิด Marker ไว้) พอเราเข้าไปแล้วให้ขึ้นไปข้างบน จะเจอแผงกลไก มีปุ่ม 4 ปุ่ม ให้กดสำรวจ เราจะเอา Blank Lexicon ใส่ลงไป แล้วตอนนี้ก็จะเป็นการกดปุ่มไปเรื่อยๆ (ปุ่มนับจากซ้ายไปขวา 1 - 2 - 3 - 4)
ให้เรากดปุ่มที่ 3 ก่อน กดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปุ่มที่ 2 ส่องแสงขึ้นมา ตอนนี้ย้ายไปกดปุ่มที่ 2 แทน กดไปเรื่อยๆเหมือนกัน จนกว่าปุ่มที่ 1 จะส่องแสง หลังจากนั้นกดปุ่มที่ 1 แล้วแคปซูลที่บรรจุ Elder Scroll จะโผล่ออกมา ตอนนี้ให้เราเก็บ Lexicon (ซึ่งตอนนี้จะกลายเป็น Transcribed Lexicon ไปแล้ว) แล้วเดินลงไปเก็บ Elder Scroll จากแคปซูล กลับออกไปข้างนอก (ถ้าเกิดเราดันกดมั่วไปแล้ว ก็มั่วปุ่มไปเลยนะคะ แต่หลักการเดียวกันคือ ต้องให้ปุ่มส่องแสงก่อน)
พอกลับออกมาข้างนอกแล้ว ให้กลับไปหา Paarthurnax ที่ยอดเขา Throat of the World แล้วจะเริ่มเควสต่อไป
** ระวังให้ดี ถ้าทำเควสของ College of Winterhold ที่ชื่อ Hitting the Books ไปแล้ว หรือ ยังไม่เสร็จ อาจจะเจอบั๊กที่ Urag ไม่มีตัวเลือกเกี่ยวกับ Elder Scroll ขึ้นมาให้คุย ซึ่งกรณีนี้ให้ข้ามการคุยกับ Urag ไปคุยกับ Septimus เลย เพราะ Septimus จะให้เราทำเควสนี้อยู่แล้ว
** Lexicon ที่อยู่ในเควสนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเควส Discerning the Transmundane หลังจากนี้จะไปทำต่อก็ได้

13. Alduin's Bane
คุยกับ Paarthurnax เขาจะให้เราเดินไปที่รอยแผลเวลา (Time's Wound) ที่อยู่ใกล้ๆ เดินไปตามลูกศร ยืนตรงนั้นแล้วกดใช้ Elder Scroll นั่งดูคัทซีนสักพัก พอจบคัทซีน เราจะได้ Shout "Dragonrend" มาใช้
ทันทีที่จบคัทซีน Alduin จะบินมาสู้กับเรา Paarthurnax จะช่วยเราสู้ด้วย ให้ใช้ Dragonrend ตะโกนใส่มันให้มันลงมากองกับพื้น ระวังด้วยเพราะ Alduin โจมตีแรงมากไม่ว่าจะเวลาพ่นไฟ หรือ เวลางับธรรมดา อย่าลืมตะโกน Dragonrend ใส่ทันทีที่เป็นไปได้ เพราะถ้า Alduin บินไปมาละก็ จะเล็งได้ยากมาก
หลังจาก HP ของ Alduin หมดหลอด มันก็จะบินหนีไป แล้วเควสก็จะจบ
** บางครั้งจะมีบั๊กที่ Alduin ไม่ยอมมาโจมตีในคัทซีน อันนี้แก้ได้ด้วยการโหลดเกมก่อนที่เราจะใช้ Elder Scroll แล้วกดใช้ Elder Scroll นอกรอยแผลเวลาครั้งนึง แล้วค่อยเดินไปใช้ตามที่ควรจะเป็น

14. Season Unending
หลังจาก Alduin บินจากไป เกมจะบอกให้เราไปคุยกับ Paarthurnax / Arngier / Esbern คนไหนก็ได้ พอคุยเสร็จเราจะต้องไปที่ Dragonsreach เพื่อคุยกับ Jarl (ถ้าคุยกับ Esbern เราจะเจอเควส Paarthurnax แถมมาด้วย ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้)
ไปคุยกับ Jarl แล้วสิ่งที่เราต้องทำจะต่างกันตามสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้นค่ะ
  • ถ้าเราเข้าฝ่าย Imperial Legion หรือ Stormcloak แล้วเล่นจนจบเนื้อเรื่องแล้ว Jarl จะอนุญาตให้เราดำเนินการทันที
  • ถ้าสงครามระหว่าง 2 ฝ่ายยังไม่จบ Jarl จะไม่ยอมเพราะห่วงเมือง ให้เราไปคุยกับ Arngier เพื่อขอจัดเจรจาสงบศึก(ชั่วคราว) หลังจากนั้นเราจะต้องไปคุยกับ Ulfric Stormcloak และ แม่ทัพ Tallius เพื่อเชิญให้ไปเจรจา กลับไปคุยกับ Arngier เขาจะเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วแล้วจะให้เราไปนั่งประจำที่ในห้องประชุม
ตรงนี้จะเป็นเนื้อหาเจรจานะคะ
เริ่มแรก Ulfric จะพูดถึง Elenwen แล้วเราจะเลือกได้ว่าจะ ไล่ Elenwen ออกไปจากห้องไหม
  • เลือก "No, you're right. Elenwen should stay." หรือ "What's the harm? General Tallius doesn't want her here either."                                    +1 Imperial
  • เลือก "Ulfric has a point. The Thalmor has no business here." +1 Stormcloak
หลังจากนี้ Ulfric จะพูดเรื่อง Markarth
  • เลือก Riften                  +1 Imperial
  • เลือก Winterhold          +1 Stormcloak
ถ้าเลือก Winterhold เราจะต้องกล่อม Tallius ต่อ (เลือก persuade ก่อน) แต่ถ้ากล่อมพลาดก็เลือก "You asked my opinion, I gave it to you." ถ้าจะยืนยันให้ Winterhold
    แล้วจะเกิดเถียงกัน แต่ Esbern จะหยุดให้ แล้วเจรจาต่อ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ Karthwesten
    • Ulfric should compensate you for Karthwesten     +1 Imperial
    • Who's to say what happened at Karthwesten?    +1 Stormcloak
    เรื่องพื้นที่ The Pale (Dawnstar)
    • I agree. Ulfric should turn over the Pale.                  +1 Imperial
    • Ulfric doesn't need to give up any more territory.   +1 Stormcloak
    เรื่องพื้นที่ Hjaalmarch (Morthal)
    • I agree, the Empire should turn over Hjaalmarch           +1 Stormcloak
    • The empire doesn't need to give any more territory       +1 Imperial
    จะเลือกยังไงก็แล้วแต่ ให้มองคะแนนไว้ด้วย ถ้าเราเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งมากเกิน ตอนเจรจาเสร็จมันจะพูดด่าเรา
    หลังเจรจาเสร็จรอให้คุยกันจนจบ แล้ว Esbern จะมาบอก Shout "Call Dragon" แล้วเราจะต้องไป Whiterun ซึ่งตอนนี้ ถ้าเรายังไม่ได้รับเควส Paarthurnax เราจะเจอ Delphine ยัดเยียดให้ หลังจากนั้นให้ไปที่ Dragonsreach เพื่อทำเควสต่อไป
    ** ในกรณีที่ Jarl อนุญาตให้เราทำทันที อันนี้เราอาจต้องไปคุยกับ Paarthurnax เพื่อเรียน Shout "Call Dragon"

    15. The Fallen
    พอเข้ามาที่ Dragonsreach ให้ไปหา Jarl แล้วบอกว่าพร้อมแล้ว หลังจากนั้นให้เดินไปที่หลังวัง เดินไปตรงระเบียงใหญ่แล้วตะโกนขึ้นฟ้าด้วย Shout "Call Dragon" สักพักมังกรที่โดนเรียกจะบินมา ให้วิ่งล่อมันเข้ามา พอเข้าตำแหน่งมันก็จะโดนกับดักล็อค ตอนนี้มันจะคุยกับเราพอคุยเสร็จ ให้ไปทำอะไรเตรียมตัวให้พร้อมก่อน เพราะพอเราไปคุยกับยามที่ชั้น 2 เพือปลดกับดัก แล้วลงไปคุยกับมันอีกที มันจะพาเราบินไปวิหาร Skuldafn ซึ่งเป็นวิหารที่มังกรเท่านั้นจะไปได้เพราะต้องบินไป

    16. The World Eater's Eyrie
    พอเราบินมาถึง Skuldafn จะพบว่ามีมังกรเต็มไปหมด พร้อม Draugr อีกเป็นฝูง จัดการซะแล้วเข้าไปในวิหาร แต่ถ้า Sneak สูงมากๆ ก็อาจย่องหลบได้หมดเหมือนกัน
    ข้างในวิหารจะมีพัซเซิลต้องแก้ 3 อย่าง
    • พัซเซิลแรกจะเป็นเสา 3 เสาแยกกันอยู่ พร้อมสวิทช์ ข้างๆเสา 2 เสาจะมีรูปอยู่บนกำแพงอยู่แล้วว่าเสาต้องเป็นรูปอะไร (มีเสาซ้ายปลาวาฬ กับ เสาขวานก) ส่วนตรงกลางตัวใบ้จะอยู่เหนือทางที่เราต้องไป ให้หมุนเสาเป็นนก สับสวิทช์ วิ่งไปเก็บสมบัติในห้อง หลังจากนั้นกลับมาหมุนเสากลางเป็นงู แล้วสับสวิทช์อีกครั้งแล้วไปต่อ
    • พัซเซิลที่ 2 จะเป็นเสา 3 เสาอีกเหมือนกัน เสากลางอยู่ตรงหน้าทันทีที่เข้าห้อง ส่วนเสาซ้ายขวาต้องขึ้นไปชั้นบน คำใบ้เสาซ้ายขวาจะติดอยู่เหนือทางเดินไปหาเสา (เสาทางซ้ายปลาวาฬ เสาทางขวานก) ส่วนเสาตรงกลางต้องเดินอ้อมไปด้านหลังเสาใหญ่ที่เสาแรกอยู่ (งู) หมุนเสาเสร็จสับสวิทช์ตรงกลางห้องให้สะพานลงมาแล้วไปต่อ
    • พัซเซิลที่ 3 คือ ประตู ให้ฆ่า Draugr ที่อยู่หน้าประตูซะ แล้วค้นศพหยิบ Diamond Claw ออกมา แล้วเปิด Inventory เช็คดู (จากวงนอกเข้าวงใน: หมาป่า - ม็อธ - มังกร) ให้หมุนแล้วเอาเล็บเสียบเปิดประตูแล้วไปต่อ
    พอเดินพ้นพัซเซิลที่ 3 มา จะเจอกำแพง ให้เรียน Shout "Storm Call" ซะ แล้วไปต่ิอ เราจะออกมานอกตัวตึก ตรงนี้ก็จะมี Draugr อยู่เยอะเหมือนกัน พร้อมมังกรบินโฉบไปโฉบมา ให้เดินขึ้นบันไดไป แล้วเราจะเจอ Nahkriin ซึ่งเป็นหนึ่งใน Dragon Priest ฆ่ามันแล้วอย่าลืมหยิบหน้ากากมันมาด้วย (ถ้าไวพอและธนูแรงพอ Sneak Attack ดอกเดียวสามารถฆ่ามันได้ก่อนมันจะดึงคฑาออก) แต่ถ้าเราไม่ทัน มันดึงคฑาออกมาแล้ว ก็ฆ่ามัน หยิบคฑา แล้วเอาคฑาไปเสียบที่เดิม หลังจากนั้นก็เข้าไปใน Portal เพื่อไป Sovngarde

    17. Sovngarde
    พอเรามาถึง Savngarde จะพบว่ามีหมอกปกคลุมเต็มไปหมด ระหว่างทางจะเจอ(วิญญาณ)ทหารเดินมาเตือน คุยเสร็จให้ไปต่อ วิ่งตามทางไป ระหว่างทาง Alduin จะโฉบไปมาแต่ไม่โจมตีเรา พอวิ่งไปสุดทางจะเจอ Tsun คุยกับเขา แล้วเขาจะถามคำถามเรา เลือกข้อไหนก็ได้ เพราะเราต้องสู้กับ Tsun อยู่ดี
    พอสู้ชนะ เขาจะให้เราเข้าไปข้างใน Hall of Valor ได้ ให้เดินข้ามสะพานกระดูกปลาวาฬแล้วเข้าไป
    ข้างใน Hall of Valor เทพ Shor จะเดินมาคุยกับเรา หลังจากนั้นให้เราไปคุยกับ Gormliath Golden-Hilt, Hakon One-Eyed แล้วก็ Felldir the Old (3 คนที่เคยสู้กับ Alduin) แล้วเขาจะช่วยเราสู้ Alduin หลังจากเดินคุยเล่นตามใจแล้วก็ออกไปข้างนอกเตรียมรับศึกสุดท้ายได้

    18. Dragonslayer
    พอออกมานอก Hall of Valor ให้วิ่งตามทั้งสามคนข้ามสะพานไป หลังจากนั้นให้ยืนเรียงแถวกับทั้ง 3 คน รอให้พูดให้เสร็จ แล้วใช้ Shout "Clear Sky" ซึ่งทั้ง 3 คนก็จะใช้ด้วยเหมือนกัน เราจะต้องตะโกน 3 ครั้ง พอครบ 3 ครั้ง Alduin ก็จะโผมาสู้กับเรา
    การสู้ Alduin ครั้งนี้ง่ายกว่ารอบก่อน เพราะเรามีผู้ช่วย 3 คนช่วยรุม ให้ใช้ Dragonrend เรื่อยๆให้ Alduin กองอยู่ที่พื้น ให้เพื่อนๆเราช่วยอัดได้ ถ้าใครมีโล่แล้วสกิลโล่สูง จะ ใช้ Shield Bash ทำให้ Alduin ชะงักได้ถ้าเกิดมันจะพ่นไฟ แต่ Alduin ก็ยังตีแรงพอตัวอยู่ดี ให้มอง HP ตัวเองไว้ด้วย
    หลัง Alduin ตาย จะมีบทสนทนานิดนึง แล้ว Tsun จะเดินมาคุยกับเรา ตอนนี้เราจะเดินเล่นสำรวจแถวนี้ก่อนก็ได้ พอจะกลับก็ให้คุยกับ Tsun แล้วเราจะได้เรียน Shout "Call of Valor" แล้วเราก็จะกลับไปที่โลกมนุษย์

    Side Quest: Paarthurnax
    เควสนี้เป็นเควสที่ทำหรือไม่ทำก็ได้
    • ถ้าทำ พวก Greybeard ทุกคนจะโกรธมาก โดยเฉพาะ Arngier แล้วก็จะไม่ช่วยเราอีกเลย ถ้าเรายืนแล้วไม่ยอมออกไปจาก High Hrothgar เขาจะพุ่งมาอัดเราด้วย แต่ Delphine กับ Esbern จะกลับมายอมคุยกับเราอีกครั้ง แล้วเราจะสามารถทำเควสสาย The Blades ได้
    • ถ้าไม่ทำ เควสสาย The Blades ทั้งหมดจะทำไม่ได้ แต่เราจะได้ Word Meditation จาก Paarthurnax และ Arngier จะบอกตำแหน่งของกำแพงที่ใช้เรีัยน Shout ให้
    ถ้าจะทำ ก็ไปหา Paarthurnax ที่ Throat of the World หลังจากนั้นก็จัดการฆ่าซะ หลังจากนั้นก็กลับไปรายงาน
    ** ถ้าเราฆ่า Paarthurnax ก่อนจะทำเควส Season Unending ละก็ เราจะไม่สามารถเจรจาสันติภาพได้ ถ้าจะทำเควสหลักต่อก็ต้องไปเล่นเควสสาย Stormcloak หรือ Imperial ให้จบเท่านั้น
    ** เควสนี้ต้องทำก่อนจะจบเนื้อเรื่องหลัก ทันทีที่เควสเนื้อเรื่องหลักจบ เควสนี้จะหายไป
    ** มีทางที่จะฆ่า Alduin ก่อนแล้วค่อยฆ่า Paarthurnax ด้วยโดยหลังเรากลับมา ให้รอให้ Paarthurnax บินขึ้นก่อน หลังจากนั้นตะโกน Dragonrend ใส่แล้วสู้ให้ชนะ -Unconfirmed
    ===================================================
    Special Thanks : คุณSylphine Sylphgale บล็อคhttp://sylphine.exteen.com/ ครับ

    วิธีเก็บถ้วย Resident Evil Revelations 2

    วิธีเก็บถ้วย Resident Evil Revelations 2  The Never-Ending Nightmare - ปลดล็อกถ้วยอื่นได้ทั้งหมด     Three Wo...